ท่องเที่ยว | เที่ยวสกลนคร

13 วัดดัง ในจังหวัด สกลนคร

ชี้เป้า"" 13วัดดัง ในจังหวัดสกลนคร สำหรับสายบุญมากราบไหว้ขอพร และทำบุญ

1. วัดพระธาตุดุม หรือ วัดพระธาตุดูม ลักษณะดั้งเดิมเป็นพระปรางค์ก่ออิฐ 3 หลังตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีร่องรอยของคูน้ำล้อมรอบเห็นได้ชัด ซึ่งอยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ ปัจจุบันลักษณะคงเหลือเพียงพระปรางค์องค์เดียวสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยเดียวกับพระธาตุนารายณ์เจงเวง แต่องค์ปราสาทเล็กกว่าพบทับหลังทั้ง 4 ด้าน ตั้งอยู่ที่บริเวณตัวเมืองจังหวัด ไม่ไกลจากหนองหานมากนัก 

2. วัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง สร้างขึ้นพร้อมกันกับ “พระธาตุนารายณ์เจงเวง” หรือ “อรดีมายานารายณ์เจงเวง” โดยชื่อนี้ตั้งชื่อตามผู้สร้างโดยกลุ่มสตรีของพระนางนาเวงแห่งเมืองหนองหานหลวงมีการแข่งขันกลุ่มบุรุษชาวเมืองหนองหานน้อย เพื่อรอรับพระพระมหากัสสปะเถระ ซึ่งนำพระอุรังคธาตุไปบรรจุยังดอยภูกำพร้า โดยตกลงกันว่าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถสร้างพระธาตุเจดีย์ใหญ่เสร็จก่อนดาวเพ็กขึ้นฝ่ายนั้นจะเป็นผู้ชนะ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร ตามถนนสายสกลนคร-อุดรธานี ตำบลธาตุนาเวง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร

3. วัดถ้ำขามหรือภูขาม (เทสกเจดีย์ เทสรังสีอนุสรณ์) ตั้งอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนครบนสันเขา ภูพาน มีบรรยกาศร่มรื่นงดงาม เป็นอนุสรณ์ว่า หลวงปู่เทสก์ ได้เคยมาจำพรรษาอยู่ ณ ที่นี้ เป็นสถาปัตยกรรม แบบเจดีย์จตุรัสมุข ตามแนวศิลปกรรมอีสานผสมกับอยุธยา ภายในประดิษฐานรูปหล่อสำริดหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ภายในวัดมีกุฏิเดิมหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ซึ่งหลวงปู่เทสก์ ได้มาจำพรรษาจนกระทั่งละสังขาร ณ ที่นี้ เมื่อปี พ.ศ. 2537

4. วัดถ้ำผาแด่น  ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน บ้านดงน้อย ตำบลดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร อยู่ห่างจากตัวจังหวัด 17 กม.  เป็นอีกหนึ่งใน สถานที่ที่ห้ามพลาดของสกลนคร ที่งดงามด้วยงานแกะสลักบนหน้าผาหินที่มีเอกลักษณ์วิจิตรศิลป์ สวยสดงดงามถ่ายทอดเรื่องราว พุทธประวัติ  เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งในจังหวัดสกลนคร มีความเป็นมานับร้อยปี ที่ตั้งวัดถ้ำผาแด่น :  บ้านดงน้อย ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร ติดต่อ : 083-626-3475 เวลาเปิด – ปิด :  08.00 – 16.30 น.

5. วัดอภัยดํารงธรรม หรือวัดถ้ำพวง และพิพิธภัณฑ์อาจารย์วัน อุตตโม สร้างเป็นรูปทรงจตุรมุข 2 ชั้น ประดับด้วยหินอ่อนทั้งหลัง และชั้นล่างตกแต่งเป็นห้องแสดงภาพวาดเกี่ยวกับประวัติของพระอาจารย์ตั้งแต่เกิด ส่วนชั้นบนมีรูปปั้นของท่านในท่านั่งขัดสมาธิ พร้อมเครื่องสักการบูชา ที่ตกแต่งสวยงาม และตู้กระจกแสดงเครื่องอัฐบริขารของท่าน บริเวณใกล้เคียงกันมีถ้ำพวงซึ่งเป็น ที่ประดิษฐานพระมุจรินทร์องค์ใหญ่ การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 22 (สกลนคร-อุดรธานี) ระยะทางประมาณ 84 กม. ถึงอําเภอสว่างแดนดินเลี้ยวซ้ายเข้าอําเภอส่องดาวไปถึงวงเวียนอนุสาวรีย์พระเวสสันดร แล้วเลี้ยวขวาไปวัดถ้ำอภัยดํารงธรรมประมาณ 5 กม.

6. วัดป่าสุทธาวาส หลวงปู่เสาร์ กันตสีลเถระ กับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระได้รับการอาราธนาจาก อุบาสิกาสามพี่น้อง ได้แก่ นางนุ่ม, นางนิล ชุวานนท์ และนางลูกอินทร์ วัฒนสุชาติ ผู้มีความเลื่อมใสในพระอาจารย์ทั้งสอง มาจำพรรษา ณ เสนาสนะป่าบ้านบาก ในปี พ.ศ. ๒๔๖๙ ต่อมาจึงได้จัดสร้างเป็นวัดป่าสุทธาวาสในเวลาต่อมาภายหลังที่ท่านจากภาคเหนือมาจำพรรษาที่วัดป่าโนนนิเวศน์ จ.อุดรธานีแล้ว คณะศรัทธาชาวสกลนครได้กราบอาราธนาท่านมาจำพรรษา ณ วัดป่าสุทธาวาสอีกครั้งใน พ.ศ. ๒๔๘๔ แล้วท่านจึงไปจำพรรษาที่เสนาสนะป่าบ้านโคก จวบจนวาระที่ท่านใกล้มรณภาพจึงได้มาทิ้งขันธ์ ณ วัดป่าสุทธาวาสใน พ.ศ. ๒๔๙๒

7. พระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ตั้งหันหน้าไปทางหนองหานที่อยู่ทางทิศตะวันออก เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงสี่เหลี่ยม สูง 24 เมตรเศษ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนบน เป็นทรงบัวเหลี่ยม ไม่มีลวดลายประดับ ที่ฐานเจดีย์ มีซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน ซุ้มยอดประตูมีลักษณะเป็นยอดปราสาท ข้างในทึบสร้างด้วย ศิลาแลงและหินทรายแดง มีซุ้มประตูหลอกแบบขอม ด้านทิศ เหนือ ใต้ และตะวันตก ซุ้มประตูทางเข้าจริงด้านทิศตะวันออกแต่แรกเริ่ม พระธาตุเชิงชุมคงเป็นปราสาทหินทรายศิลปะสมัยขอม ภายในกรอบประตูทางเข้าอุโมงค์ด้านขวามือ มีจารึกพระธาตุเชิงชุมอักษรขอม โบราณ ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖ องค์พระธาตุในปัจจุบันเป็นศิลปะล้านช้างเนื่องจากช่วงที่อิทธิพลของอาณาจักรล้านช้างแผ่เข้ามา บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙ และได้มีการบูรณะองค์พระธาตุขึ้นมาใหม่

8.พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร ตั้งอยู่ที่วัดป่าอุดมสมพร ตําบลพรรณา อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ลักษณะตัวพิพิธภัณฑ์ เป็นรูปเจดีย์ฐานกลมกลีบบัวสามชั้น ความเป็นมาในการสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ได้มีพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ภายหลังจากการสรงน้ำศพพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ว่าในฐานะที่เราเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ ขอให้ทุกคนได้สามัคคีกัน อย่าให้เกิดความแตกแยกและขอให้ยึดมั่นในคำสอนของท่านไว้ให้มั่นคง ขอให้เก็บอัฐิของท่านพระอาจารย์ไว้แห่งเดียวกัน เครื่องอัฐบริขารของท่านอาจารย์ ถ้าสามารถเก็บรวมรักษาไว้เป็นที่เดียวกันก็จะดี

9. พระธาตุภูเพ็ก เป็นปราสาทขอมขนาดใหญ่ ก่อสร้างด้วยหินทราย เรือนธาตุตั้งอยู่บนฐานยกสูง ตอนหน้าของปราสาทมีฐานหินเป็นก้อนเรียงซ้อน ๆ กัน ยื่นออกคล้ายกากบาท เรียกว่า โคปุระ สูงกว่าฐานของเรือนฐานเล็กน้อย บริเวณโดยรอบพบสระน้ำโบราณและแหล่งสกัดหินในการสร้างปราสาท หน้าอาคารปราสาทหันไปทางทิศตะวันออกและมีบันไดหินก่อปูนขึ้นบนยอดเขาประมาณ 491 ขั้น ตามตำนานสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยเดียวกับพระธาตุนารายณ์เจงเวง

นอกจากนี้แล้ว พระธาตุภูเพ็กยังใช้เป็นสถานที่พิสูจน์ความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกในปลายปี พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) ด้วยมีพิกัดอยู่ในเมอริเดียนเดียวกันกับปราสาทบายน ในประเทศกัมพูชา
ข้อควรระวัง
1. ไม่ควรขีดเขียนสถานที่
2. ไม่ควรปีนป่ายเพื่อจะถ่ายภาพ

10. วัดพระพุทธบาทน้ำทิพย์ ตั้งอยู่ที่ อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร มีรอยพระพุทธบาทที่มีน้ำไหลออกจากถ้ำเล็กๆ ไหลลงมาผ่านรอยพระบาท น้ำจะไหลตลอดทั้งปี เป็นรอยพระบาทหมู่ทับซ้อนกัน บางรอยก็ชัดเห็นเป็นนิ้วชัดบ้างไม่ชัดบ้าง เมื่อปี.2547 พระอ.บุญมี เขมธัมโม.เดินธุดงค์มาพบเจอรอยพระพุทธบาท จึงตั้งสำนักขึ้นชื่อวัดพระพุทธบาทน้ำทิพย์

11. พระมหาเจดีย์พระธาตุคูณคำวิปัสสนา ขนาดความสูง 49 เมตร กว้าง 15 เมตร ยาว 15 เมตร ที่สร้างครอบองค์พระธาตุพนมจำลองซึ่งข้างในมีเครื่องทรงกษัตริย์เจ้าพระยาเกรียงไกรต้นตระกูลของกษัตริย์ลาวอดีตชาติของหลวงปู่ฯท่าน หลวงปู่ขาวฯท่านได้มาเมื่อยังสมัยเป็นเณร และพระธาตุเจดีย์ใหม่นี้สร้างเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุของพระอริยะสาวกของพระพุทธองค์ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบันและอนาคต ที่จะเป็นที่กราบไหว้สักการะบูชา อธิฐานของเหล่ามนุษย์ เทพเทวดา พรหม และเหล่าพญานาคราชทั้งหลายได้มาพึ่งพา ซึ่งหลวงปู่ขาวฯท่านอธิฐานจิตให้ลูกหลานพญานาคทั้งหลายได้มาร่วมสร้างกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามก็ต้องมา และพระเจดีย์ฯนี้เป็นฝีมือของพระและชาวบ้านที่วัดมาร่วมกันสร้าง สร้างได้เร็วมากแต่ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน พระและชาวบ้านที่มาทำค่อนข้างทำงานยาก

12. พระธาตุสัจจะอธิษฐานมหาบารมี วัดสอนประชาราม อ.เมือง จ.สกลนคร เป็นวัดที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองสกลนครมากนัก แต่ก็มีองค์พระเจดีย์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ บ้านนาแก ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เป็นวัดประจำหมู่บ้านสำหรับให้พระภิกษุสงฆ์จำพรรษอยู่ที่นี่ จนกระทั้งในปี พ.ศ. 2548 วัดและชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างองค์พระเจดีย์ “พระธาตุสัจจะอธิษฐานมหาบารมี” ขึ้น เพื่อไว้เป็นที่ยึดเหนียวจิตใจของคนในชุมชน ซึ่งเป็นพระธาตุองค์ใหญ่สวยงามมาก ๆ ราวบันไดทางขึ้นองค์พระธาตุจะเป็นรูปปั้นพญานาคสีขาวบริสุทธิ์ แต่ละมุมทั้ง 4 มุมขององค์พระธาตุจะมีพระธาตุศีลบารมีตั้งอยู่ ด้านในองค์พระธาตุทางวัดเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปกราบไหว้พระประธานองค์ใหญ่ นอกจากนี้ภายในยังมีองค์พญานาคราชสีขาวองค์เล็กอีกด้วย

13. วัดดอยธรรมเจดีย์ บ้านนาสีนวล ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร แต่เดิมเคยเป็นถ้ำเสือบนเทือกเขาภูพาน มีความสงบวิเวกดี ในปี พ.ศ.๒๔๘๙ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ ได้มาปักกลดที่ปากถ้ำเสือนี้ แล้วปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานจนเสือที่เคยอาศัยอยู่ ณ ถ้ำแห่งนี้ ต้องหลีกทางให้ท่านอยู่ปฏิบัติเพราะสู้เมตตาธรรมของท่านไม่ได้ ต่อมาหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ ก็ได้สร้างเป็นวัดขึ้นมาและเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ปัจจุบันมีหลวงพ่อแบน ธนากโร เป็นเจ้าอาวาส ในคราวที่องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เดินทางมาที่วัดแห่งนี้พร้อมกับพระอุปัชฌาย์ คือ พระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) แห่งวัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี และผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครในขณะนั้น ได้ตั้งชื่อวัดโดยเอานามพระอุปัชฌาย์ขององค์ท่านมาตั้งเป็นชื่อ วัดแห่งนี้จึงมีนามว่า “วัดดอยธรรมเจดีย์” มาจนกระทั่งทุกวันนี้

แชร์ไปที่

Facebook
Twitter
Email

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น